การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับ
ความรู้เล็กๆ น้อยๆ นี้อาจเป็นประโยชน์อย่างมากในการช่วยให้ผู้คนค้นพบเว็บไซต์ของคุณ
  • Page Speed หนึ่งในเป็นปัจจัยสำคัญต่อ SEO

    Page Speed หนึ่งในเป็นปัจจัยสำคัญต่อ SEO

    Page Speed เป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์และมีผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้ การทำให้เว็บไซต์โหลดได้รวดเร็วเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลทั้งในประสบการณ์ของผู้ใช้และในการติดอันดับในการค้นหา

    นี่คือเหตุผลที่ Page Speed มีความสำคัญ

    1. ผลกระทบต่อประสบการณ์ผู้ใช้

      • เว็บไซต์ที่โหลดได้รวดเร็วมีผลต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้. ผู้ใช้มักทิ้งเว็บไซต์ที่โหลดช้าและเลือกใช้เว็บไซต์ที่มีการโหลดรวดเร็ว.
    2. การรักษาผู้เยี่ยมชม (Retention)

      • Page Speed มีผลต่อการรักษาผู้เยี่ยมชมในเว็บไซต์. ผู้เยี่ยมชมมักกลับมาในอนาคตถ้าพบว่าเว็บไซต์โหลดได้รวดเร็วและไม่ต้องใช้เวลานาน.
    3. การติดอันดับในการค้นหา (SEO)

      • Google ให้ความสำคัญกับ Page Speed เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการติดอันดับในผลการค้นหา. เว็บไซต์ที่โหลดได้รวดเร็วมีโอกาสสูงกว่าในการติดอันดับดีในผลการค้นหา.
    4. การลดการกระทบต่อแบตเตอรี

      • ผู้ใช้มือถือมักค้นหาและเข้าชมเว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์พกพา. Page Speed ที่ดีช่วยลดการใช้งานแบตเตอรีและเพิ่มประสิทธิภาพในการเข้าถึงผ่านมือถือ.
    5. การลดการกระทบต่อการขาย

      • สำหรับเว็บไซต์ที่ให้บริการการขายของ, Page Speed มีผลต่อการลดการกระทบต่อการทำธุรกรรม. ผู้ใช้มักทิ้งตะกร้าสินค้าหากพบว่าเว็บไซต์มีปัญหาในการโหลด.
    6. การประหยัดทรัพยากร

      • Page Speed ที่ดีช่วยลดการใช้ทรัพยากรบนเซิร์ฟเวอร์, ลดค่าใช้จ่ายในการโฮสติ้งและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากร.
    7. การเพิ่มการแบ่งปันสังคม

      • ผู้ใช้มักแบ่งปันเนื้อหาที่พบบนเว็บไซต์ทางโซเชียลมีเดีย. Page Speed ที่ดีช่วยเพิ่มโอกาสในการแบ่งปันเนื้อหา.

    การปรับปรุง Page Speed ทำให้ไม่เพียงแต่เว็บไซต์ของคุณทำงานได้ดี, แต่ยังเป็นการพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้, การติดอันดับในการค้นหา, และประสิทธิภาพทรัพยากรทั้งระบบ.

    นี่คือวิธีที่ทำให้เว็บไซต์ของคุณโหลดได้รวดเร็ว

    1. ปรับปรุงรูปภาพ

      • ใช้รูปภาพที่มีขนาดเหมาะสมและลดขนาดไฟล์ให้เล็กที่สุด.
      • ใช้รูปภาพรูปแบบตัวที่ถูกต้อง (JPEG สำหรับรูปถ่าย, PNG สำหรับภาพในรูปแบบต่างๆ).
    2. ใช้การแคช (Caching)

      • ใช้ HTTP Caching เพื่อให้เบราว์เซอร์บันทึกข้อมูลและลดการโหลดซ้ำซ้อน.
      • กำหนดค่า Cache-Control headers ในการตั้งค่าการแคชของไฟล์.
    3. ลดการรวมเสริมไฟล์ (Minify Files)

      • Minify CSS, JavaScript, และ HTML เพื่อลดขนาดของไฟล์.
      • ลบช่องว่าง, ลบคำสั่งที่ไม่จำเป็น, และลดขนาดไฟล์.
    4. ใช้ Content Delivery Network (CDN)

      • ใช้ CDN เพื่อให้เนื้อหาของเว็บไซต์ได้รับการแจกจ่ายจากที่ใกล้ที่สุดกับผู้ใช้.
      • ลดการดึงข้อมูลจากเว็บเซิร์ฟเวอร์หลัก.
    5. ปรับแต่งการโหลดภายใน (Optimize Server-Side):

      • ปรับแต่งการกำหนดค่าเซิร์ฟเวอร์เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็ว.
      • ใช้เว็บเซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง.
    6. ลดการรองรับทางด้าน

      • ลดจำนวนของไฟล์, รูปภาพ, และส่วนเสริมที่เว็บไซต์ต้องโหลด.
      • ลดการใช้ JavaScript และ CSS ที่ไม่จำเป็น.
      • โหลดไฟล์ JavaScript ที่ไม่จำเป็นต้องโหลดไว้หลังหน้าการแสดงผล.
      • ใช้ async หรือ defer attribute สำหรับการโหลด JavaScript ที่ไม่บังคับการแสดงผลทันที.
    7. ปรับแต่งการโหลดภาพ (Lazy Loading)

      • ใช้การโหลดภาพแบบ Lazy Loading เพื่อโหลดภาพเมื่อจะถูกแสดงผล.
      • ลดการโหลดทันทีของภาพที่ไม่อยู่ในมุมมองแรก.
    8. การใช้ Compression

      • ใช้ Gzip หรือ Brotli compression เพื่อลดขนาดของไฟล์ที่ถูกส่งไปยังผู้ใช้.
      • กำหนดค่า Compression headers ในการตั้งค่าเว็บเซิร์ฟเวอร์.
    9. ตรวจสอบโค้ด JavaScript และ CSS

      • ตรวจสอบโค้ด JavaScript และ CSS เพื่อปรับปรุงและลดขนาด.
      • ใช้เวอร์ชันล่าสุดของส่วนเสริมและไลบรารี.
    10. การใช้ WebP สำหรับรูปภาพ

      • ใช้รูปภาพในรูปแบบ WebP ที่มีขนาดเล็กและคุณภาพสูง.
      • รูปภาพในรูปแบบ WebP มักมีขนาดไฟล์น้อยกว่า JPEG หรือ PNG.

    การทำเว็บไซต์โหลดได้รวดเร็วเป็นกระบวนการต่อเนื่องและต้องได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด. การใช้เครื่องมือตรวจสอบ Page Speed และ Google PageSpeed Insights สามารถช่วยคุณตรวจวัดและปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้

    ทดสอบความเร็วเว็บไซต์ของคุณได้ที่นี่ 
    https://pagespeed.web.dev/

บริการรับทำเว็บไซต์ธุรกิจ

รับทำเว็บไซต์เป็นวิธีที่ดีสามารถรองรับความต้องการของธุรกิจหรือองค์กรของคุณอย่างเหมาะสมและมีคุณภาพ เช่น การสร้างสินค้าและบริการ, การเพิ่มยอดขาย, การเสริมสร้างยอดขาย, การสื่อสาร, หรือการนำเสนอข้อมูล การทำเว็บไซต์ธุรกิจเป็นกระบวนการที่ต้องการการวางแผนและการดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อทำอย่างถูกต้อง มันสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของธุรกิจของคุณและสร้างความสำเร็จในองค์กรของคุณ

popup-close
popup